ปัญหาสุขภาพที่เผชิญในชีวิตประจำวันที่พบได้บ่อย คงหนีไม่พ้น อาการท้องผูก ที่ทำให้รู้สึกถ่ายไม่สบายท้อง และหากปล่อยไว้นานก็มีโอกาสที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายต่าง ๆ ตามมาได้ ทั้งอาการท้องผูกเรื้อรัง อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือมีความผิดปกติต่ออวัยวะทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ตลอดจนส่งผลต่อสุขภาพผิวพรรณ ทำให้เกิดสิว และมีผิวที่ไม่สดใสเปล่งปลั่งเหมือนอย่างเคยอีกด้วย ซึ่งใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ท้องผูก หรือหาข้อมูลว่าท้องผูกกินอะไรดีอยู่ล่ะก็ ตามมาหาคำตอบพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้เลย!
ท้องผูกคืออะไร? เกิดจากอะไร?
ท้องผูก หมายถึง อาการที่ร่างกายขับถ่ายอุจจาระได้ลดน้อยลงกว่าปกติ หรืออาจไม่มีการขับถ่ายเลย ซึ่งอุจจาระมักมีลักษณะแข็ง ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการเบ่งอุจจาระมากกว่าปกติ และรู้สึกเจ็บปวดขณะเบ่งอุจจาระร่วมด้วย หรือในบางรายก็อาจรุนแรงถึงขั้นมีเลือดออกปนมากับอุจจาระร่วมด้วย
โดยสาเหตุของอาการท้องผูกเรื้อรังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางด้านร่างกายและปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็น
- การทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน มีภาวะการเคลื่อนไหวตัวของลำไส้ช้ากว่าปกติ
- การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดที่ผิดปกติ อาจมีการเกร็ง หรือคลายตัวไม่ดีพอ ทำให้มีแรงเบ่งอุจจาระไม่เพียงพอ
- อวัยวะทางเดินอาหารและการขับถ่ายถูกอุดกั้นเนื่องจากก้อนเนื้อ ก้อนมะเร็ง หรือมีอาการแคบตีบขึ้น
- โรคภัยไข้เจ็บบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคพาร์กินสัน และภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ยาที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก ยาลดกรด ยาแก้ท้องเสีย ยารักษาความดันโลหิต และยาที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร
- มีความผิดปกติของระดับโพแทสเซียมที่ต่ำเกินไป หรือมีแคลเซียมสูงเกินไป
- มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์ต่ำ
- มีพฤติกรรมกลั้นอุจจาระเป็นประจำ
- มีพฤติกรรมดื่มน้ำน้อย
ผลกระทบของท้องผูกต่อสุขภาพ
อาการท้องผูกหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- มีโอกาสทำให้เกิดริดสีดวง รูทวารปริ แตก เป็นแผล เนื่องจากอุจจาระแข็งและเสียดสีบริเวณนั้น ส่งผลให้เกิดความดันในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเพิ่มมากขึ้น เช่น ความดันในทรงอกทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ ทั้งยังทำให้เกิดความดันในลูกตา และความดันในช่องท้องได้อีกด้วย
- หากมีอาการท้องผูกเรื้อรัง อาจทำให้ลำไส้อุดตัน รู้สึกปวดท้อง แน่นท้อง หรือรุนแรงถึงขั้นไม่ผายลม และไม่สามารถอุจจาระได้ตามปกติ
- มีโอกาสพัฒนาเป็นอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
วิธีการสังเกตอาการท้องผูก
หากไม่มั่นใจว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอาการท้องผูกอยู่หรือไม่? แนะนำให้สังเกตอาการดังต่อไปนี้ ซึ่งหากพบว่าตัวเองเผชิญกับอาการเหล่านี้อยู่ ควรรีบหาวิธีดูแลรักษาทันที เพื่อป้องกันอาการท้องผูกเรื้อรังที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต
- มีการขับถ่ายอุจจาระน้อยลงกว่าปกติ ซึ่งทั่วไปแล้วจะขับถ่ายวันละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หากน้อยกว่านี้อาจเป็นสัญญาณของอาการท้องผูกได้
- อุจจาระที่ถ่ายออกมามีลักษณะแข็ง ก้อนขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาในการเบ่งมากกว่าปกติ
- รู้สึกไม่สบายท้อง ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- สังเกตเห็นเลือดปะปนออกมากับอุจจาระที่ถ่ายออกมา หรือรู้สึกเจ็บบริเวณรูทวารหลังขับถ่าย
- รู้สึกว่าถ่ายอุจจาระไม่หมด ถ่ายไม่สุด แม้จะถ่ายอุจจาระเรียบร้อยแล้ว
ปฏิวัติสุขภาพลำไส้ด้วย Probio-10 Fiber plus
ท้องผูกกินอะไรดี? จริง ๆ แล้วมีวิธีดูแลรักษาอาการท้องผูกที่เริ่มต้นได้ง่าย ๆ เลย ก็คือการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หรือหาตัวช่วยปรับสมดุลลำไส้ เร่งการขับถ่ายอุจจาระให้มีประสิทธิภาพอย่าง Probio-10 Fiber Plus โพรไบโอติกคุณภาพดี คัดสรรจากโพรไบโอติกสายพันธุ์คุณภาพเยี่ยมจากเกาหลีและอเมริกา พร้อมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง และเสริมด้วยไฟเบอร์เกรดการแพทย์ที่จะช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
5 เหตุผลที่คุณควรเลือก Probio-10 Fiber plus
ด้วยสารสำคัญและนวัตกรรมการผลิตของอาหารบำรุงลำไส้จากเกาหลีและอเมริกา ผสมผสานสูตรจากนวัตกรรมที่คัดสรรมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ นี่จึงเป็น 5 เหตุผลที่คุณควรเลือก Probio-10 Fiber Plus เป็นตัวช่วยชั้นยอดในการจัดการกับปัญหาระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ดังนี้
1.ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
ถ้าไม่รู้ว่าท้องผูกกินอะไรดี? ต้อง Probio-10 Fiber Plus ตัวช่วยปรับสมดุลลำไส้ อุดมด้วยโพรไบโอติก 10 ชนิด ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหารจึงช่วยให้ออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยปริมาณถึง 20,000 ล้าน CFU ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรังได้ เนื่องจากมาพร้อมกับส่วนผสมของไฟเบอร์เกรดการแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถละลายน้ำได้ 100% ช่วยให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการลำไส้อักเสบ และลำไส้แปรปรวนได้อีกด้วย
2.บำรุงลำไส้ให้แข็งแรง
มากไปกว่านั้น อาหารบำรุงลำไส้ Probio-10 Fiber Plus ยังอัดแน่นไปด้วยโพรไบโอติกคุณภาพเยี่ยมที่สามารถช่วยจัดการเชื้อแบคทีเรียตัวร้ายในระบบทางเดินอาหารไปพร้อม ๆ กับเพิ่มปริมาณเชื้อแบคทีเรียชนิดดี จึงช่วยปรับสมดุลลำไส้ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และมีสุขภาพทางเดินอาหารที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
3.เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร
โพรไบโอติกที่ Probio-10 Fiber Plus เลือกใช้เป็นโพไบโอติกที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าสายพันธุ์โพรไบโอติกที่ใช้ จะเป็นอาหารบำรุงลำไส้ที่มีคุณภาพ สามารถทนกรด ทนน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร และช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นหลังเพิ่มปริมาณโพรไบโอติกให้แก่ร่างกายแล้ว จากเดิมทีที่มีอาการไม่สบายท้อง ปวดท้อง แน่นท้องคล้ายมีลมในทางเดินอาหารมากเกินไป หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าอาการท้องอืด ท้องเฟ้อนั้น ก็จะมีอาการทุเลาลง และรู้สึกสบายตัวมากขึ้น เพราะโพรไบโอติกจะช่วยปรับสมดุลลำไส้ โดยไปช่วยลดจำนวนแบคทีเรียตัวร้าย ที่ก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารนั่นเอง
5.เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
มากไปกว่าโพรไบโอติกที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพลำไส้และทางเดินอาหารให้แข็งแรงแล้ว อาหารบำรุงลำไส้ Probio-10 Fiber Plus ยังมาพร้อมกับส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติจากผลไม้และสมุนไพรกว่า 29 ชนิด ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เทียบเท่ากับส้มถึง 50 ลูกเลยทีเดียว หากรับประทานเป็นประจำ ก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงได้อีกด้วย
สรุป
อาการท้องผูก มักเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง แต่เมื่อเป็นแล้วก็ควรดูแลรักษาให้อาการดีขึ้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการท้องผูกเรื้อรัง ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงในอนาคต และถ้าใครที่กำลังลังเลว่าท้องผูกกินอะไรดี? Zenvida ขอแนะนำ Probio-10 Fiber Plus อาหารบำรุงลำไส้คุณภาพเยี่ยม อุดมด้วยโพรโบโอติกจากเกาหลีและอเมริกา ที่จะช่วยให้คุณบอกลาอาการท้องผูกได้ใน 14 วัน และหากรับประทานร่วมกับการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ก็จะช่วยบรรเทาอาหารท้องผูก ไม่สบายท้อง ให้คุณได้อย่างยั่งยืน