เช็ค! อาการท้องผูก ขับถ่ายยากเป็นยังไง

ปัญหาท้องผูก เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน สร้างความอึดอัดและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้มาก การที่เรารู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นเรียกว่าท้องผูกหรือไม่นั้น จำเป็นต้องเข้าใจถึงลักษณะการขับถ่ายที่ถือว่าปกติเสียก่อน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า การขับถ่ายปกติเป็นอย่างไร? แบบไหนถึงเรียกว่าอาการท้องผูกเรื้อรัง พร้อมทั้งสาเหตุที่ทำให้เกิดท้องผูก และวิธีการแก้ไขปัญหาท้องผูกอย่างเหมาะสม

ปัญหาท้องผูก เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน สร้างความอึดอัดและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้มาก การที่เรารู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นเรียกว่าท้องผูกหรือไม่นั้น จำเป็นต้องเข้าใจถึงลักษณะการขับถ่ายที่ถือว่าปกติเสียก่อน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า การขับถ่ายปกติเป็นอย่างไร? แบบไหนถึงเรียกว่าอาการท้องผูกเรื้อรัง พร้อมทั้งสาเหตุที่ทำให้เกิดท้องผูก และวิธีการแก้ไขปัญหาท้องผูกอย่างเหมาะสม

อย่าปล่อยให้ปัญหาท้องผูกเรื้อรังรบกวนคุณอีกต่อไป! มาเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงไปพร้อมกันในบทความนี้!

ขับถ่ายปกติคือแบบไหน? 

คำว่า “การขับถ่ายปกติ” นั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว การขับถ่ายที่ถือว่าปกติจะมีลักษณะดังนี้

  • มีความถี่ในการขับถ่าย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ในบางคนอาจถ่ายทุกวันหรือ 2-3 วันครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารที่รับประทาน ปริมาณน้ำที่ดื่ม และกิจกรรมที่ทำ เป็นต้น
  • ไม่มีกำหนดจำนวนครั้งที่แน่นอนในการขับถ่ายแต่ละครั้ง แต่โดยทั่วไปแล้ว อุจจาระที่ออกมาควรมีปริมาณที่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป
  • มีลักษณะอุจจาระที่ปกติ มีลักษณะนิ่ม ไม่แข็งหรือเหลวเกินไป มีสีน้ำตาลอ่อน และมีรูปร่างคล้ายกล้วยหอม 
  • การขับถ่ายออกมาควรทำได้ง่าย ไม่เจ็บ หรือต้องเบ่งมาก

ท้องผูกคืออะไร?

ท้องผูก คือ ภาวะที่มีการขับถ่ายเป็นไปอย่างยากลำบาก หรือมีจำนวนครั้งในการขับถ่ายน้อยกว่าปกติ และมักมีลักษณะของอุจจาระที่แข็งและแห้ง ทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างเจ็บปวดและใช้เวลานานในการเบ่งถ่าย 

อาการที่บ่งบอกว่าท้องผูก

  • ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • อุจจาระแข็ง เป็นก้อน รู้สึกเจ็บขณะขับถ่าย
  • ต้องเบ่งแรงเวลาถ่าย
  • รู้สึกถ่ายไม่สุด
  • ปวดท้อง ท้องอืด
  • มีเลือดปนในอุจจาระ

ปัจจัยที่ส่งผลให้ท้องผูก

สาเหตุของอาการท้องผูกนั้นมีหลากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกที่เราสามารถควบคุมได้ ดังนี้

1.ปัจจัยภายในร่างกาย

  • การป่วยเป็นโรคทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอักเสบ โรคลำไส้ใหญ่รั่ว หรือโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
  • การป่วยโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการขับถ่าย เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคพาร์กินสัน หรือโรคซึมเศร้า
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในหญิงตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยหมดประจำเดือน
  • มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของลำไส้

2.ปัจจัยภายนอก

  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
    • การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เช่น ชอบทานอาหารแปรรูป และแป้งขัดสี
    • การดื่มน้ำน้อย
    • ชอบรับประทานอาหารรสจัด และอาหารมัน
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต
    • มีการออกกำลังกายน้อย
    • มักชอบการนั่งนาน ๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว
    • มีการกลั้นอุจจาระเป็นประจำ
  • การทานยาบางชนิด เช่น กลุ่มยาแก้ปวด ยาลดกรด ยาแก้ท้องเสีย ยาธาตุเหล็ก ยาแก้แพ้ รวมทั้งยาแก้ซึมเศร้า ก็อาจส่งผลให้ท้องผูกได้
  • การเดินทางไปต่างที่ ที่มักมีการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาในการขับถ่าย ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกชั่วคราวได้เช่นกัน


วิธีแก้ไขและป้องกันท้องผูกด้วยอาหารบำรุงลำไส้

ปัญหาท้องผูกเป็นเรื่องที่น่ารำคาญและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาท้องผูกที่ได้ผลดีที่สุด โดยเฉพาะการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย  อย่างอาหารที่มีกากใยสูง จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการบรรเทาอาการท้องผูก เพราะกากใยจะช่วยเพิ่มปริมาณและความนุ่มของอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น 

โดยมีตัวอย่างอาหารบำรุงลำไส้ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรังที่ควรทาน ได้แก่

  • ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า บล็อกโคลี่ ผักกาดหอม
  • ผลไม้ อย่างกล้วย มะละกอ ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล
  • ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด
  • ถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเหลือง

และอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว ที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การรับประทานโพรไบโอติกส์จากอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะอาจได้รับปริมาณแบคทีเรียชนิดดีไม่มากพอที่จะออกฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ที่สำคัญก็จำเป็นต้องทานร่วมกับพรีไบโอติกส์ด้วย เพราะพรีไบโอติกส์จะเป็นอาหารของโปรไบโอติกส์ จึงจะช่วยให้โปรไพรโอติกส์เจริญเติบโตได้ดีขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ใครที่มีปัญหาท้องผูกอยู่ Zenvida ขอแนะนำ Probio-10 Fiber plus ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสูตรมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรังโดยเฉพาะ มีทั้งโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ผสมเข้าด้วยกันแล้ว จึงสะดวกต่อการรับประทาน พร้อมช่วยปรับสมดุลลำไส้ และบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรังได้อย่างตรงจุด หมดปัญหาเลยว่า ท้องผูกกินอะไรดี?

เพราะ Probio-10 Fiber plus มีคุณสมบัติเด่นช่วยปรับสมดุลลำไส้หลายประการ ดังนี้

  • มี Probiotic ช่วยบำรุงลำไส้สูงถึง 20,000 ล้าน CFU
  • อุดมไปด้วยโพรไบโอติก 10 สายพันธุ์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เป็นอย่างดี 
  • ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดีในลำไส้ ให้ลำไส้แข็งแรง ขับถ่ายคล่อง หมดปัญหาท้องผูกกวนใจ หากทำการปรับพฤติกรรมที่ไม่ดี และไม่ถูกสุขลักษณะร่วมด้วย ก็จะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรังได้อย่างยั่งยืน
  • มีไฟเบอร์เกรดการแพทย์ ช่วยเพิ่มปริมาณกากใยอาหารในร่างกาย ทำให้อุจาระนิ่ม ลดอาการท้องผูก และลดปัญหาเจ็บขณะอุจราระได้
  • ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติและสมุนไพรกว่า 29 ชนิด เข้าช่วยบำรุงและปรับสมดุลของร่างกาย

สรุป

การขับถ่ายเป็นกระบวนการที่สำคัญต่อสุขภาพ ดังนั้นการดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารด้วยการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งการจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม และรับประทานอาหารเสริมบำรุงลำไส้อย่าง Probio-10 Fiber plus จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและระบบขับถ่ายที่เป็นปกติ บอกลาปัญหาท้องผูกเรื้อรังได้อย่างยั่งยืนแน่นอน หากคุณรับประทานอาหารเสริมนี้ ร่วมกับการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

เช็ค! 5 พฤติกรรมร้าย ทำลายโพรไบโอติกในลำไส้แบบไม่รู้ตัว

การเพิ่มปริมาณโพรไบโอติก หรือจุลินทรีย์ดีในร่างกาย จะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาท้องผูก ป้องกันอาการถ่ายยาก

8 อาหารโพรไบโอติกสูง หากินง่าย คืนสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรง แก้ท้องผูก

อยากมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ลดปัญหาท้องผูกเรื้อรัง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง เป็นทางออกที่ดีที่สุด

ลำไส้สุขภาพดี ถ่ายคล่อง บอกลาท้องผูกด้วย Probio-10 Fiber plus

ปัญหาสุขภาพที่เผชิญในชีวิตประจำวันที่พบได้บ่อย คงหนีไม่พ้น อาการท้องผูก ที่ทำให้รู้สึกถ่ายไม่สบายท้อง และหากปล่อยไว้นานก็มีโอกาสที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายต่าง

ไขความลับ! ทำไมโพรไบโอติกถึงช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

ไขความลับ! ทำไมโพรไบโอติกถึงช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เชื่อว่าหลาย ๆ

5 วิธีกินโพรไบโอติกที่ถูกต้อง กินตอนไหน จบปัญหากินมานานทำไมไม่เห็นผล?

ทำไมกินโพรไบโอติกมานานแล้วไม่เห็นผล? เป็นคำถามที่คาใจของใครหลายคน เพราะแม้จะทานอาหารเสริมชนิดนี้เป็นประจำ แต่ปัญหาท้องอืด ท้องผูก

ปวดท้องบ่อย อาหารไม่ย่อย เกิดจากอะไร? มาดูแลลำไส้ด้วยโพรไบโอติก

เคยไหม? กินอะไรไปก็ไม่ย่อย ท้องอืด ท้องผูก ปวดท้องบ่อยจนร่างกายเริ่มแย่

ท้องผูกเรื้อรัง แก้ยังไงดี? โพรไบโอติกช่วยได้จริงไหม?

ใครเป็นบ้าง? ท้องผูก ถ่ายยาก แน่นท้องจนพาให้รู้สึกอึดอัดไปหมด! หากคุณกำลังเจอปัญหาแบบนี้บ่อย

เหตุผลที่คนท้องผูกเรื้อรังเลือกทาน Probio-10 Fiber Plus

ไขข้อสงสัย! อาหารเสริมโปรไบโอติกจำเป็นต่อร่างกายจริงหรือไม่? ช่วยแก้ท้องผูกเรื้อรังได้จริงหรือเปล่า? ทำไมใคร ๆ

โพรไบโอติก คืออะไร? ทำไมถึงดีต่อสุขภาพ

ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เป็นเรื่องที่หลายคนเคยเจอใช่ไหมล่ะ? อาการเหล่านี้อาจเกิดจากความไม่สมดุลของโพรไบโอติก